top of page
Search
Writer's picturechainarong chainarong

5ผู้เล่นประทับใจแฟนผีหลังเก็บชัยแมนเชสเตอร์ดาร์บี้

Updated: Apr 11, 2020

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บันทึกสถิติในลีก ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2010 ที่สามารถเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ทั้งเหย้าและเยือน หลัง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และ สก็อตต์ แม็ตโทมิเนย์ ช่วยกันตะบันย้อมสีแมนเชสเตอร์ให้เป็นสีแดง เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา

ชัยชนะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บสามแต้มอันมีค่า ทำให้ทีมยังอยู่เส้นทางลุ้นท็อปโฟร์ต่อไป และนักเตะเร้ด เดวิลล์ 5 คนต่อไปนี้ คือเหล่าแข้งที่ฉายแสงเจิดจ้า ที่เหล่าแฟนผี พากันเทใจ ยกให้มีส่วนสำคัญยิ่งในการปราบซ่าเพื่อนบ้านผู้น่ารำคาญได้สำเร็จ





1. แฮร์รี่ แม็คไกวร์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บคลีนชีต ได้สี่นัดติดต่อกันที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด และเจ็ดในเก้าเกมล่าสุดของพวกเขาในทุกการแข่งขัน โดยเหตุผลใหญ่ ที่ทำให้เกมรับของทีมที่ดีขึ้น ก็คือคือประสิทธิภาพที่เยี่ยมยอดของกัปตันคนล่าสุด

อดีตปราการหินของเลสเตอร์ ทำหน้าที่บัญชาเกมรับอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ซึ่งการป้องกันของเขาสร้างแรงกดดันให้กับแนวรุกของซิตี้ได้เป็นอย่างดี เขาไล่ตามปิดเกมจนทำให้ เซร์ฆิโอ อเกวโร่ หายไปจากเกม

ดาวเตะวัย27ปี ค่อยทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์อย่างที่ควรเป็น ปิดปากนักวิจารณ์ที่เคยเย้ยหยันที่วิจารณ์ถึงค่าตัวที่แสนแพงของเขากับผลงานที่ตรงกันข้าม


2.เนมันย่า มาติช


เนมันย่า มาติช กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งในไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และฟอร์มที่ดีขึ้นของเขา ได้นำไปสู่การขยายสัญญา ที่จะทำให้เขาใช้เวลาอีกหนึ่งปีที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด

เขาตอบสนองต่อความเชื่อ ด้วยการเปลี่ยนทำผลงานที่ยอดเยี่ยม เป็นอีกหนึ่งหัวใจแดนกลาง เคียงข้างเฟร็ดได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ในบทบาทของเขานอกจากมีส่วนในการทำลายเกมบุกของซิตี้แล้ว เขายังมีส่วนมากกับเกมบุกของยูไนเต็ด

ดาวเตะทีมชาติเซอร์เบีย ทำสถิติตัดเกมได้3ครั้ง และเคลียร์บอลได้ในจังหวะสำคัญได้อีก ทำให้นึกถึงภาพในอดีตในช่วงที่เขาถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในโลก


3. อารอน วาน บิสซาก้า


อารอน วาน บิสซาก้า เป็นหนึ่งในผู้เล่นเกมรับที่ดีที่สุดในสนาม โดยเขามีบทบาทสำคัญในตัดเกมของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง จนดาวเตะทีมชาติอังกฤษเงียบตลอดการแข่งขัน บังคับให้ซิตี้ต้องมุ่งเน้นการโจมตีไปยังพื้นที่อื่นๆนอกความรับผิดชอบของเขา

ดาวเตะวัย22ปี สร้างชื่อให้กับตัวเองในช่วงสองปีที่ผ่านมา ด้วยความแข็งแกร่งในการป้องกัน โดยเขาทำสถิติเบรกเกมบุกของซิตี้ได้ถึง8ครั้ง มากกว่าใคร ๆ ที่อยู่ในสนาม

แม้เขาจะเคยถูกนักวิจารณ์เพ็งเล็งเรื่องการพาบอลขึ้นไปข้างหน้า แต่เกมเมื่อคืน วาน บิสซาก้า ก็แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ ด้วยการพาบอลขึ้นหน้าฝ่าแนวกองกลางซิตี้ได้ถึงสามคน บ่งบอกถึงความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นของเขาในช่วงนี้เป็นอย่างมาก


4.บรูโน่ แฟร์นันด์ส


ตั้งแต่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไม่มีใครนอกจากเขาที่เข้ามามีส่วนร่วมในการทำประตูของทีมได้มากกว่านี้อีกแล้ว (สองประตูสามแอสซิสต์) จนกลายเป็นหัวใจของเกมรุกที่ทำให้ ยูไนเต็ด กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ดาวเตะโปรตุเกสสร้างความเหนือชั้นด้วยการยกบอลหลอกแนวรับของซิตี้ ที่ยังไม่ทันระวังป้องกันจากจังหวะฟรีคิก ให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล หลุดไปยิงวอลเลย์ผ่านมือ เอแดร์ซอน เป็นประตูขึ้นนำให้กับทีม

อดีตแข้งสปอร์ติ้ง ลิสบอน กล้าจะพาบอลเข้าเล่นในพื้นที่เสี่ยง กล้าจ่ายบอลเข้าไปลุ้นในแดนหน้า ด้วยเบสิคที่ยอดเยี่ยมของเขา แทบจะไม่เห็นการจ่ายบอลพลาดแต่อย่างใด แถมยังยังมีส่วนช่วยปัดกวาดก่อนเกมของผู้มาเยือนจะผ่านเข้ายังพื้นที่ป้องกันของทีมอีกต่างหาก

โดยเขาถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 87 หลัง โซลชา ส่ง โอเดียน อิกาโล่ ลงมาแทน ซึ่งทำให้เขาได้รับเสียงปรบมืออย่างล้นหลามจากแฟน ๆ ยูไนเต็ด หลังโชว์ผลงานได้อย่างประทับใจ


5.อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล


อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล การมี บรูโน่ แฟร์นันด์ส ในสนาม ส่งผลต่อผลงานของดาวเตะฝรั่งเศสให้ดีขึ้นในตำแหน่งศูนย์หน้าของทีม โดยเขาทำให้บรรยากาศความตึงเครียดของแมนเชสเตอร์ดาร์บี้สำหรับแฟนเจ้าถิ่นลดน้อยลงไป เมื่อสามารถเบิกสกอร์แรกได้สำเร็จ

ดาวเตะวัย24ปี ได้รับบอลจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส จากจังหวะฟรีคิก ก่อนตะบันยิงวอลเลย์ทันที ซึ่งแม้บอลจะไม่ไกลตัวจาก เอแดร์ซอน สักเท่าไหร่ แต่การโจมตีอย่างรวดเร็ว ทำให้ประตูทีมชาติบราซิลไปทันระวังตัว ส่งผลต่อการเสียประตูในที่สุด

ซึ่งประตูนี้ของเขา ส่งผลให้เขากลายเป็นนักเตะ แมนฯยูไนเต็ด คนแรกนับตั้งแต่ เอริก คันโตน่า ที่สามารถยิงประตูใส่ แมนฯซิตี้ ในลีกได้ถึง3เกม และถ้าเขายังคงอยู่ในแบบฟอร์มนี้ โอกาสท่ แมนฯยูไนเต็ด จะแซง เชลซี ขึ้นไปอยู่อันดับสี่ก็มีความเป็นไปได้ไม่น้อย



อ่านข่าวเพิ่มเติม : ข่าวบอลพรีเมียร์ลีก

เครดิตโดย : ข่าวกีฬาออนไลน์

เครดิตโดย : ข่าวบอลเมื่อคืน

เครดิตโดย : ข่าวกีฬาสดใหม่



25 views0 comments

Comments


Post: Blog2_Post
bottom of page